วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เหลือเชื่อ!!!!!

24 เรื่องแปลกที่สุดในโลกไม่รู้ทำไปได้ไง!!!

1.นักถ้ำมองโครตสกปรก 

เป็น ชาวอเมริกันแต่ไม่ระบุชื่อเพราะญาติขอร้อง อายุ 37 ปี อยู่เมืองเลล์ เกลด รัฐฟลอริดา อาชีพเพาะปลูก เมื่อเวลาว่างชายคนนี้จะมีอาชีพพิเศษคือชอบแอบมองสาวทำธุระโดยการตะเวณดูตาม สุขาทั่วเมือง และยิ่งมองยิ่งติดใจจงตัดสินใจแช่ในถังส้วมหลุมเพื่อมองเห็นสาวทำธุระจะๆ ตา(ส้วมเมืองนอกเขาเป็นแบบนี้) เผลิญสาวคนหนึ่งเขาทำธุระปล่อยทุ่นส่วนตัวเสร็จ แล้วบังเอิญไปเห็นอะไรไม่รู้มีตาสองตาของคนจึงแจ้งตำรวจ แล้วเจ้าถ้ำมองคนนั้นก็ถูกตำรวจเรียกรถเครนพร้อมตะขอเกี่ยวนักถ้ำมองออกจาก หลุม จากนั้นก็หย่อนลงบึงน้ำเสียเลย

2.แล้วใครจะมาแทน 

นาง ซินเธีย บรวน ชาวออสซี่ ได้ปลดเกษียณอายุงาน 62 ปีลง ที่โรงงานผลิตยาแห่งหนึ่ง จากสถิตทำงาน 34 ปีเต็ม โดยงานที่เธอทำสุดภาคภูมิใจคือ เธอสูดดมกลิ่นตด หรือก้นผู้ป่วยโรคริดสีดวงถวาร เนื่องจากบริษัทแห่งนี้ผลิดน้ำยาดับกลิ่นก้นและส่งใส่ว่าผลิตภัณฑ์เขาใช้ได้ กับผู้ป่วยหรือไม่

3. สถิตนี้ใครกล้าทำลาย 

โด แนลด์ คิง วัย 38 ปี ชาวเมืองเคพทาวน์ ประเทศเซาธ์แอฟริกา เขามีสถิดอันดับโลกโครตภูมิใจคือ เขาเป็นสามีหรือผัวของสัตว์ตัวเมียไม่น้อยกว่า 600 ตัว โดยเมียสัตว์ของโดแนลด์มีทั้ง แพะ แกะ วัว ควาย ม้า หมา แมว แรด นกกระจอกเทศ ลามา ไฮยีน่า กวาง เต่าตะนุ ลิงชิมแปมซี กอริลล่า ตัวกินมด (โฮ้กล้ามั่วขนาดนี้เลยเรอะ)

4. อยากดัง 

เลิฟ วีนี่ ดาราโนเนม ชาวลอนดอน ทำยังไงก็ไม่ดังเสียที วันหนึ่งเธอเข้าส้วมก็เกิดไอเดียสุดเจ๋ง เธอใช้เงินก้อนสุดท้ายทำอัมบั้มซีดี.ทันที โดยการอัดเสียงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องน้ำขณะที่ตนเองเข้าใช้ ไม่ว่าเสียงแปรงฟัน เสียงขุยเสลด เสียงฉี่ ตด หาวเรอ เสียงอึตกกระทบกับน้ำ ผลคืออัลบัมเธอขายดีมากกว่า30000 แผ่น และราคาแผ่นพอๆ กับแผ่นป๊อบฮิตเลยทีเดียว (ดังสมใจเลย)

5. ตายสุดซวยที่สุดในโลก 

อัน นี้เคยออกข่าวแล้วนะ บีทรีส วิลเลียมสัน อายุ 77 ปี พลเมืองอาวุโสชาวอังกฤษ วันหนึ่งเธอออกไปทำสวนหลังบ้าน ขณะที่เธอทำงานเพลินขณะนั้นก็มีของเสียก้อนหนึ่งตกลงมาจากห้องน้ำเครื่องบิน พอดีช่วงนี้อากาศหนาวจัดทำให้ของเสีย(ขี้) จับก้อนน้ำแข็งจนโตเท่าผลส้มตกลงหัวอย่างรุนแรง เธอล้มลงเสียชีวิตทันที (เฮ้อ..ทำมั้ยซวยยังงี้)

6. แข่งกินของสัปดนชิงแชมป์โลก 

การ แข่งนี้เกิดขึ้นที่ออสเตเลีย ชื่อรายการ ไอแซล อีท แอนนีธิง คอนเทสต์ แปลว่าฉันจะ แ ด ก ทุกอย่างที่ขวางหน้า ของที่กินมีทั้ง คอไก่สดๆ ฉี่วัว1ถ้วย หนอน ไส้เดือนสด ไขมันคน 1 ถ้วยที่ดูดมาจากคลีนิก (แวะ )

7. สั่งขี้มูลไกลที่สุดในโลก 

โจ อานนี่ เมสัน สาวสวย หุ่นดี แต่พฤติกรรมสุดอนาถ เพราะเธอมีความสามารถพิเศษคือสั่งขี้มูกขนาดเท่าเม็ดถั่วแดงไกลถึง 151 ฟุต 3 นิ้วครึ่งขนาดเท่าสนามฟุตบอล (โอโห ซูดยอด)

8.แมวฉันอยู่ในจานเป็ด 

มา ร์ซา ชาวนิวยอร์ก เสียใจมากที่แมวตัวโปรดชื่อ พัลซั่ม หายตัวไป เธอเศร้ามากจึงเดิมมาที่ภัตราคารจีน "xxx๊ดลัค ยู แฮป"สั่งเป็ดทอดมากินเพราะคิดว่าเธอจะคลายเศร้าได้ พอดีตอนที่เธอกินอาหารอย่างอร่อย ตำรวจ 3 นาย มาร้านพร้อมหมายค้นว่าร้านนี้ลักแมวลักหมามาปรุงอาหารขายแก่ลูกค้า......และ แล้วมาร์ชาก็ตามตำรวจไปดูในครัวแล้วก็เห็นหัวแมวของเธอแขวนกับตะขอ และพ่อครัวก็ยอมรับว่าเป็ดทอดที่เธอกินเป็นแมวของเธอเอง............... อร่อย

9. ฉี่ก็มีดี 

นัก วิจัยชาติไหนก็ไม่รู้เ พากันตกตะลึงว่าฉี่นั้นมีดี โดยพบคุณสมบัติที่ว่ามีฤทธิ์คล้ายยากล่อมประสาท ทำให้คนรู้สึกสุขสบายและมีความสุข เมื่อเห็นดังนี้นักวิจัยเลยนำไปสกัดเป็นแคปซูลขายในราคา 5 ดอลลาร์เสียเลย

10.มนุษย์ตดตายอย่างสมศักดิ์ศรี 

โจ นาธาน กริกส์ ชาวอังกฤษ เขาป่วยเป็นโรคประหลาด เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินย่อยอาหารและกล้ามเนื้อทำให้เกิดแก๊สในท้องและตด เป็นประจำทุกระยะ 11 วินาที อยู่ดีไม่ว่าดีนายคนนี้ดันมีภรรยาและอยู่ 19 ปีเต็ม มีหรือที่เธอจะทนได้ เธอเลยจับสามีขังไว้ในตู้เก็บผ้าแบบปิดมิดชิด ปล่อยให้สามีตดตั้งแต่เช้าจนเย็น และวันต่อมาภรรยาเขาก็ลองจุดไฟเหย่ไปดู ปรากฏว่าบ้านระเบิดพังเป็นแถบ ตายกันทั้งสามีภรรยา

...หากชาติมีจริง ขอให้เราทั้ง2เกิดมาคู่กัน...

11.นักเลียสิวสถิตโลก 

นาง สาวแซลลี่ ดาลตัน อายุ 19 ปี เมืองโอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เปิดอาชีพเป็นนักเลียสิว โดยใช้ลิ้นสะกิดสิวให้หัวออก เธอทำทั้งหัวดำ หัวช้าง และเธอทำมาตั้งแต่ปี 1942 จนอายุ 21 ปี เธอทำสถิตเลียสิวแก่ผู้คนรวม 5000 คน

12.อาหารชวนอ้วกที่สุดในโลก 

วง การอาหารโลกต้องบันทึกสถิตว่าเป็นอาหารที่ขยะแขยงของโลกที่เคยมีบันทึกมา เหตุเกิดที่ภัตตาคาร "โอมาร์" ในกรุงอัสตันบูล ประเทศตุรกี มีอาหารชนิดหนึ่งชื่อ "ซุปเห็ด" ดังมากคนต่อเข้าคิวไปกินจนแน่นร้านทุกวัน  มีอยู่วันหนึ่งลูกค้าคนหนึ่งเกิดสงสัยว่าทำไมเนื้อเห็ดมันเหนียวผิดปกติกว่า วันอื่นๆ จึงมีการตรวจสอบ ผลปรากฏว่าแท้ที่จริงเนื้อเห็ดที่เหนียวๆ นั้น เป็นเนื้อผิวหนังที่ตาย ตัดออกจากปลายแขน ปลายขา คนป่วยโรคเรื้อนนั้นเอง.....อ้วก! (สงสัย...คงอร่อยน่าดู )

13.หมอพยาบาลหนีกระเจิง 

เหตุ เกิดที่ห้องผ่าตัดแห่งหนึ่งในนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อแพทย์และพยาบาลดูดไขมันจากหน้าทาง(ไลโปซัคั่น) จากสาวอ้วนคนหนึ่งชื่อ มาร์ธ คีเนอร์ หนัก 975 ปอนด์ หรือ 442 กิโลกรัม ระหว่างที่ดูดจู่ๆ เครื่องดูดไขมันเกิดทำงานผิดพลาดแทนที่จะพ่นไขมันลงถุงกลับพ่นกระจายไปทั้ง ห้อง แพทย์ และพยาบาล ต้องวิ่งหนีอุตลุด

14.เรื่องน่าเศร้าของช่างตัดผมตาบอด 

ซา มูเอล โครเจอร์ อายุ 55 ปี เป็นช่างตัดผมอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ตาบอดทั้งสองข้าง วันนั้นแก่เดินถือเก้าอี้สำหรับเด็กสำหรับนั่งตัดผม ขณะนั้นเขาเดินอยู่ริมถนนในเมืองแอตแลนต้า ด้วยความซวย ซามูเอลเกิดล้มหน้าคะมำลงกับพื้น บังเอิญมีหมามาขี้ไว้เกินบะเริ่ม ก้อนขี้หมานั้นเข้าปากเขาเต็มๆๆ.....อ้วก! (เฮ้อ...ซวย)

15.อาหารนี้ช่วยรอดชีวิต 

ด. ช. ทอมมี่ กรีลีย์ อายุ 10 ขวบ อาศัยอยู่ในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เขาเกิดมาพร้อมโรคแพ้อาหารทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนมแม่ ขนมก็แพ้ ถ้ากินเข้าไปจะอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง แต่......มีอาหารอย่างหนึ่งที่ทอมมี่กินแล้วไม่อ้วก และสามารถเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง นั้นคือขี้มูลเหลวๆ จากปากหรือจมูกเด็กๆ นั้นเอง

16.มนุษย์ปืนใหญ่ลงผิดที่ 
  
โร เจอร์ เคนนีย์ เป็นนักแสดงผาดโผนเสี่ยงตาย เป็นมนุษย์ปืนใหญ่ยิงจากปากกระบอกปืนไปไกลถึง 100 ฟุต แล้วตกไปจุดที่คำนวณไว้อย่างแม่นยำ  ครั้งหนึ่งในการแสดง เกิดความผิดพลาดจากแรงอัดกระบอกปืนทำให้ร่างเขาลอยพ้นตาข่าย และเวลานั้นช้างกำลังขี้พอดี หนาของโรเจอร์จึงพุ่งเข้าตูดช้างอย่างแม่นยำ (เจ๋งเป้ง...แม่นเปะ)

17.มนุษย์งู 

เรื่อง นี้เคยออกข่าวมาแล้วช่อง 3 บรูโน่ โทรลอคซี่ ชาวอิตาลี กำลังฝึกฝนสมาธิแบบชาวตะวันออก วันๆ ไม่ทำการอะไร เอาแต่เล่นโยคะ อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกว่าลิ้นของเขามันใหญ่ไป คับปากคับคอ เป็นอุปสรรคต่อการฝึกสมาธิเขาจึงใจกรรไกลคมๆ อ้าปากอาๆๆ แล้วตัดฉับลิ้นแยกเป็น 2 แฉก จบ..............

18.ศิลปิน 

เน็ด โทเลอร์ ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินสุดเพี้ยน แต่งานเขานั้นสวยงาม ตระการตา ความสัปดนเขาเริ่มขึ้นเมื่อเมียคลอดแฝด 3 ออกมา ด้วยความแป็นศิลปิน เขาเอาผ้าออมแบบใช้แล้วของเด็กแฝดมาจัดการคลุกเคล้ากับขี้แล้วผสมอะไร บางอย่าง สร้างผลิตภัณฑ์เครื่องประดับ เช่น สร้อยลูกประคำ เข็มกลัดติดเสื้อ กิ๊ปหนีบผม ฯลฯ

19.มนุษย์หมาป่า 

โร เบิร์ต จอห์นสัน หรือ เฟ็ช เกิดพลัดหลงพ่อมากลางป่า ฝูงหมาป่ามาเห็นเข้าจึงเก็บไปเป็นลูก ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนกระทั้ง 10 ขวบ จึงได้รับการช่วยเหลือออกมาอยู่กับสังคมมนุษย์เหมือนเดิม แต่นิสัยของโรเบิร์ตยังแก้ไม่หาย แม้ปัจจุบันนี้ เขาจะโตแล้ว เป็นถึงผู้บริหารนักการธนาคาร แม้ในขณะประชุม เขายังขอเวลานอกเพื่อที่จะเข้าห้องส่วนตัว อาเจียนของเก่าออกมาใส่จานแล้วเลียกลับเข้าไปเหมือนเดิม

20.คนสกปรกที่สุดในโลก 

วิ ลลี่ เครเมอร์ แห่งเมืองยูยีน รัฐโอเรกอน ได้รับฉายาว่า คุณขี้เปียก เนื่องจากเขาสะสมก้อนประหลาดกลิ่มเหม็นเน่า หนักกว่า 27 ปอนด์ไว้ห้องนั่งเล่นเขา ก้อนเหม็นนั้นมาจากสิ่งละอันพันละน้อยจากสะดือ รูหู จากรูจมูก ขี้ไคล ผสมด้วยน้ำอสุจิ

21.ภารโรงขี้เล่น 

ใน ห้องแล้บทดลองทางโภชาการแห่งหนึ่ง ในเมืองแฟรค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อนักวิจัยกลับบ้านแล้ว ก็ถึงเวลาที่ภารโรงมาทำความสะอาด วันรุ่งขึ้นนักวิจัย เข้ามาภายในเพื่อเข้าทำงานต่อ แทนที่จะทำงานกับด่าพ่อล้อแม่เพราะถาดงานวิจัยเกิดสลับปนไปหมด พร้อมถาดใส่ใส้เอแคลร์กับราสเบอรี่ ได้มีถาดก้อนสำลีซับเลือดซับหนองมาแทนเพราะภารโรงขี้เล่นแท้ ๆ (เฮ้อ...ซวย)

22.ดิ่งพสุธาลงผิดที่ 

แค เธอรีน เดลาแพลนเต้ เป็นนักดิ่งพสุธาหญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นมืออาชีพ ครั้งหนึ่งเธอดิ่งพสุธา ปรากฏว่าถูกลมกรรโชกเลยเป้าหมายออกนอกเมืองนับเป็นไมล์ ๆ เธอบังคับร่มลงในแปลงปลูกผักแปลงหนึ่ง โดยหล่นตูมลงถังปุ๋ยหมักที่เปิดฝาจนขึ้นอืด อย่างสุด ๆ
(เย่ แม่นจัง )

23.ฆ่าตัวตายแบบสกปรก 

เคนท์ เกรียร์ วัย 56 ปี ชาวอังกฤษ ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบเรื้อรังหลายปี ทำให้เขาหายใจลำบาก มีเสลดพัดคอตลอดเวลา ความจริงรักษาหาย แต่เขาบอกตัวเองว่า "อยู่ไปก็รกโลก" จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายแบบพิสดาร เขาเติมน้ำจนเต็มอ่างอาบน้ำเด็กก้มหน้าปล่อยให้เสลด น้ำมูก ปะแน่นรูจมูก 2 รู และบางส่วนปิดหลอดลม จนหน้าเขาซุกลงในอ่างน้ำ แล้วเขาก็ตายอย่างสมใจนึกเพระขาดอากาศหายใจ

24.จิตแพทย์ก็บ้าเป็น 

เมื่อ ปี 1992 มีจิตแพทย์ผู้วชาญโรคจิตในผู้สูงอายุชาวอเมริกันนำเสนอวิธีการบำบัดโรคจิต แก่คนไข้ของตนเอง โดยให้คนไข้แก้ผ้าแล้วนอนในอ่างอาบน้ำ จากนั้นหมอก็แก้ผ้าจนล่อนจ้อนก้มหน้าใช้ลิ้นตัวเองเลียร่างกายคนป่วยจนทั่วตัว กว่าจะรู้ว่าจิตแพทย์คนนั้นเป็นบ้า ด้วยให้คนป่วยโรคจิตแหละมาบอกว่า "หมอเป็นบ้าไปแล้วเจ้าค่า"

ที่มา : 
www.dek-d.com

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

คำทำนายวันสิ้นโลก ของ "ศาสนาพุทธ"

ต่อไปนี้คือรายละเอียดของคำทำนายทั้งหมด โปรดอ่านอย่างไตร่ตรอง มิต้องเชื่อ


สัญญาณอันตราย :
1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้วนะครับ อย่านิ่งเฉยเชียวนะ โลกเริ่มเอาคืนแล้ว
2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน
3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ชำระล้างเป็นเวลา 7 วัน)
*ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียที่ทวีปเอเชีย ในประเทศที่เป็นอริต่อกัน











ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
2. พายุถล่ม
3. แผ่นดินแยกและแผ่นดินไหว

4. ภูเขาไฟระเบิด (จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก,ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก,อีกทั้งที่จังหวัด ราชบุรี น่าน แพร่ อ.ร้องกวาง)
5. คลื่นยักษ์จากทะเล

6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ Virusteria,อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันทีภายใน 6 วัน
7. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตยังไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมากก่อน
8. อดอยากขาดแคลนอาหาร






จากรูป: เป็นรูปเด็กในประเทศแอฟริกา แต่อีกหน่อยคงเป็นอย่างนี้กันทั่วโลก




การเตรียมตัวเตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว
1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3-6เดือน
2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
4. ที่อยู่อาศัย
5. ยารักษาโรค
6. ด่างทับทิมและคาราไมล์(จำเป็นมาก) ห้ามกินอาหารที่มาได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี ส่วนอาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
8. เครื่องช่วยชีวิต
9. แสงสว่างเช่น เทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้นท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
10. เครียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง




ด่างทับทิมครับ




วิธีการดูแลตัวเองในช่วงวิกฤติ
1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นญาติสนิทหรือคนที่เรารู้จักก็ตาม
2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรคและสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น มลภาวะที่ขึ้นไปติดค้างอยู่ตามชั้นบรรยากาศจะลงมาพร้อมกับฝน
3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลียงไม่ได้ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้นประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพ จะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น คนที่มาเยือนอาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดนเด็ด ขาด
5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม เพื่อป้องกันสารพิษตกค้างครับ
7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษเช่น งูพิษ จระเข้
10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง




ที่มา : http://www.mythland.org/

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

alejandro - lady gaga

alejandro - lady gaga


เพลง : alejandro
ศิลปิน : Lady Gaga
เนื้อเพลง :

I know that we are young
And I know that you may love me
But I just can’t be with you like this anymore
Alejandro
 
She’s got both hands
In her pocket
And she won’t look at you (won’t look at you)
She hides true love
En su bolsillo
She’s got a halo around her finger
Around you
 
You know that I love you boy
Hot like Mexico
Rejoice
At this point I’ve gotta choose
Nothing to lose
 
Don’t call my name
Don’t call my name
Alejandro
I’m not your babe
I’m not your babe
Fernando
Don’t wanna kiss
Don’t wanna touch
Just smoke my cigarette and hush
Don’t call my name
Don’t call my name
Roberto
 
Alejandro
Alejandro
Ale-Alejandro
Ale-Alejandro-e-ro
 
Stop
Please, just let me go
Alejandro
Just let me go
 
She’s not broken
She’s just a baby
But her boyfriend’s like her dad
Just like a dad
And all those flame that
Burned before him
Now he’s gotta firefight
Got-cool the bad
 
You know that I love you boy
Hot like Mexico
Rejoice
At this point I’ve gotta choose
Nothing to lose
 
Don’t call my name
Don’t call my name
Alejandro
I’m not your babe
I’m not your babe
Fernando
Don’t wanna kiss
Don’t wanna touch
Just smoke my cigarette and hush
Don’t call my name
Don’t call my name
Roberto
 
Alejandro
Alejandro
Ale-Alejandro
Ale-Alejandro-e-ro
 
Don’t bother me
Don’t bother me
Alejandro
Don’t call my name
Don’t call my name
Bye Fernando
I’m not your babe
I’m not your babe
Alejandro
Don’t wanna kiss
Don’t wanna touch
Fernando
 
Don’t call my name
Don’t call my name
Alejandro
I’m not your babe
I’m not your babe
Fernando
Don’t wanna kiss
Don’t wanna touch
Just smoke my cigarette and hush
Don’t call my name
Don’t call my name
Roberto
 
Alejandro
Alejandro
Ale-Alejandro
Ale-Alejandro-e-ro
 

 

 

Lyrics : http://lyrics.ohozaa.com/?search_song=alejandro&search_artist=Lady Gaga&action=noadd&search=Lady Gaga

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

Justin Bieber - Pray เนื้อเพลง+แปล


  
Pray - Justin Bieber

Ohh Ohh Ohh
And I pray...

I just can’t sleep tonight
Knowing that thing ain’t right
Its in the papers, its on the TV, Its everywhere that go.
Children are crying
Soldiers are dying
Some people don’t have a home

But I know there’s sunshine behind that rain,
I know there’s good time behind that pain
Hey, Can you tell me how I can make a change

I close my eyes and I can see the better day
I close my eyes and pray
I close my eyes and I can see the better day
I close my eyes and pray

I loss my appetite,
Knowing kids starve tonight
And when I sit up, cause my dinner is still on my plate.
Ooo I got a vision, to make a difference
And its staring today

Cause I know there’s sunshine behind that rain,
I know there’s good time behind that pain
Hey, Heaven tell me how I can make a change

I close my eyes and I can see the better day
I close my eyes and pray (Yeah)
I close my eyes and I can see the better day
I close my eyes and…

I pray for the beoken-hearted
I pray for the life not started
I pray for all the ones not breathing
I pray for all the souls in need, I pray..
Can you give em one today

I just can’t sleep to night
Can someone tell me how to make a change?

I close my eyes and I can see the better day
I close my eyes and pray
I close my eyes and I can see the better day
I close my eyes and I pray..

I pray..
I pray…~
I close my eyes and pray.


ฉันไม่สามารถหลับลงได้ในคืนนี้
รับรู้ถึงบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
มันอยู่ในหนังสือพิมพ์ ในทีวี ทุกๆ ที่ที่ฉันไป
พวกเด็กๆ กำลังร้องไห้
ทหารที่กำลังใกล้ตาย
บางคนไม่มีบ้านอยู่
แต่ฉันรู้ว่าฟ้าหลังฝนนั้นย่อมมีแสงแดดส่องสว่าง
รู้ว่าหลังความเจ็บปวดจะยังมีช่วงเวลาที่ดี
บอกฉันได้ไหมว่าทำยังไงถึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้

*ฉันหลับตาลงและเห็นวันที่ดีกว่า
ฉันหลับตาลงและภาวนา  (*)

ฉันไม่รู้สึกอยากอาหาร
เมื่อรู้ว่าคืนนี้เด็กๆ กำลังหิวโหย
ฉันลุกขึ้นจากมื้อเย็น แต่อาหารของฉันก็ยังคงอยู่ในจานเหมือนเดิม
ฉันได้มองเห็นทางที่จะทำสิ่งที่แตกต่าง
และมันกำลังจะเริ่มขึ้นในวันนี้
เพราะฉันรู้ว่าฟ้าหลังฝนนั้นย่อมมีแสงแดดที่ส่องสว่าง
รู้ว่าหลังความเจ็บปวดจะยังมีช่วงเวลาที่ดี
สวรรค์บอกฉันทีว่าทำยังไงถึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้

ฉันหลับตาลงและเห็นวันที่ดีกว่า
ฉันหลับตาลงและภาวนา 
ฉันหลับตาลงและเห็นวันที่ดีกว่า
ฉันหลับตาลงและ...

ฉันสวดภาวนาให้แก่ดวงใจที่แตกสลาย
ขอภาวนาในกับทุกชีวิตที่ต้องจบสิ้นลง
ขอสวดภาวนาให้กับทุกคนที่หมดลมหายใจ
ให้กับทุกดวงวิญญาณที่ต้องการ
แค่วันนี้วันเดียวได้ไหม
ฉันไม่สามารถหลับลงได้ในคืนนี้
ใครสักคนบอกฉันได้ไหมทำยังไงถึงจะเปลี่ยนมันได้

ฉันหลับตาลงและเห็นวันที่ดีกว่า
ฉันหลับตาลงและภาวนา
ฉันหลับตาลงและเห็นวันที่ดีกว่
ฉันหลับตาลงและฉันได้ภาวนา 
ฉันหลับตาลงและภาวนา....

Credit : siamzone

วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554

การเลือกเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายอย่างไรให้ ok!!!

 การเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 
   การแต่งกายให้สวยงามและเหมาะสมกับบุคลิกภาพจำเป็นต้องรู้จักเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายโดยยึดหลักดังนี้
   ๑.รู้จักอำพรางส่วนที่บกพร่องของตนเอง และรู้จักเน้นในส่วนที่เป้นจุดเด่น   ๒.รู้จักเลือกสีเสื้อผ้าให้เข้ากับสีผิวของตนเอง   ๓.สวมใส่เสื้อผ้าที่มีความประณีต มีความสะอาด เรียบร้อย   ๔.รักษาซ่อมแซมเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพดี   ๕.เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับรูปร่าง โอกาส และกาลเทศะ   ๖.ใช้เครื่องประดับตกแต่งให้เสื้อผ้าสวยงามยิ่งขึ้น 
๑.การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับโอกาส     ในการแต่งกายเราควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับโอกาส ดังนี้   ๑)เสื้อผ้าสวมใส่อยู่กับบ้าน  ควรเลือกเสื้อผ้าที่สะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ ในบ้าน เช่น ทำงานบ้าน นอนเล่น เป็นต้น ดังนั้น เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่กับบ้าน ควรเป็นเสื้อผ้าที่ตัวหลวมเล็กน้อย หรือไม่คับจนเกินไป สวมใส่สบาย
   ๒)เสื้อผ้าสวมใส่ไปทำงานหรือไปทำกิจธุระ  ควรเลือกที่หรูกว่าเสื้อผ้าอยู่กับบ้าน และเลือกแบบสุภาพ ปกปิดมิดชิดไม่เปิดเผย สำหรับผู้หญิงไม่ควรใส่เสื้อเปลือยไหล่ เสื้อสายเดี่ยว เสื้อรัดรูป ที่เน้นรูปทรง หรือมองเห็นทรวดทรงชัดเจนเพราะไม่สุภาพ ไม่ปลอดภัย และทำให้ผู้สวมใส่มีคุณค่าความงามทางความรู้สึกของผู้พบเห็นน้อยลง
   ๓)เสื้อผ้าสวมใส่ไปงานเลี้ยงต่างๆ  ควรเป็นแบบเก๋ หรือพิถีพิถันมากกว่าชุดทำงานหรือไปทำธุระ ควรเป็นแบบสุภาพไม่เปิดเผย  ควรเลือกกระเป๋า รองเท้า ให้เข้ากับชุดที่สวมใส่
   ๔)เสื้อผ้าสวมใส่ไปงานเลี้ยงกลางคืน  เลือกเสื้อผ้าที่หรูหราพอสมควร เช่น ตกแต่งด้วยเลื่อม หรือวัสดุอื่นที่ให้แสงวูบวาบ  ไม่ควรเปิดเผยทรวดทรงมากนัก เพาระธรรมเนียมประเพณีไทย ไม่นิยมให้แต่งเปิดเผยมาก โดยเฉพาะผู้หญิงซึ่งถือว่าไม่สุภาพ และขัดต่อประเพณีนิยม
   ๕)เสื้อผ้าที่ใช่สำหรับงานกลางวัน  นิยมใช้ผ้าธรรมดา ผ้าแพร เนื้อด้าน มีลวดลายและดอกตามความชอบหรือวัสดุอื่น ส่วนการแต่งกายในเวลากลางคืนนั้นนิยมใช้ผ้าแพรเนื้อด้าน หรือผ้าที่มีความมัน เครื่องประดับในกลางคืนจะพิถีพิถันมากกว่างานกลางวัน
                การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับฤดูกาล สีและวัย      การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับฤดูกาล เป็นการเลือกเสื้อผ้าตามความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และสภาพฟ้าดิน อากาศ ซึ่งควรพิจารณาเลือก ดังนี้    ๑.ฤดูร้อนนิยมใช้ผ้าสีสว่างสดใส ตามสภาพฟ้าดินอากาศ    ๒.ฤดูฝนใช่สีค่อนข้างทึบ เนื้อผ้าไม่บางเกินไป เพราะถ้าเปียกฝนเสื้อผ้าก้อจะช่วยอำพรางสัดส่วนได้    ๓.ฤดูหนาวนิยมใช้สีหม่น สีเข้ม เพื่อเพิ่มความอบอุ่น ให้แก่ร่างกาย    ๔.ผู้ที่ผิวสีขาวจะสวมเสื้อผ้าได้ทุกสี ผู้ที่มีผิวคล้ำควรหลีกเลี่ยงสีหม่น สีปนเทา ควรหลีกเลี่ยงสีร้อน เพราะจะทำให้มองดูผิวคล้ำมากขึ้น    ๕.การเลือกผ้าตามวัย ควรพิจารณาเลือก ดังนี้
    -เด็กเล็กเหมาะสมที่จะใช้สีอ่อนเพราะดูสะอาดตา เช่น ฟ้าอ่อน ชมพูอ่อน เขียวอ่อน เหลืองอ่อน เป็นต้น    -วัยเด็กถึง 12 ขวบ เหมาะสมในการใช้สีอุ่น สีสดใสสะอาดตา ถ้าต้องใช้สีตัดกัน  ควรเป็นปริมาณ ๒๐-๔๐% ควรใช้สีสดใสที่คล้ายธรรมชาติ เช่น สีฟ้า สีน้ำทะเล สีของดอกไม้ใบหญ้าเป็นต้น
   -วัยรุ่น เป็นวัยที่มีความคิดเป็นอิสระ ชอบเพ้อฝัน เบื่อง่าย ชอบแต่งตัวตามแฟชั่น เพื่อให้เกิดจุดเด่น เสื้อผ้าจึงเป็นแบบสะดุดตาตามสมัยนิยม   -วัยหนุ่มสาว เป็นผู้ที่อยู่ในวัยทำงานสามารถใช้สีได้ทุกสี ทั้งสีสด สีเข้ม สีหม่น โดยดูจากการใช้สอยว่าเป็นชุดในโอกาสใด ควรเลือกให้เข้ากับสีผิว สวมใส่แล้วช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพ
   -วัยสูงอายุ ในสมัยก่อนแฟชั่นของผู้สูงอายุ ใช้ได้ไม่กี่สี เช่น เทา น้ำตาลปนเหลือง แต่ปัจจุบันแฟชั่นของผู้สูงอายุมีทั้งสีอ่อน สีเข้ม สีหม่น แฟชั่นสีสันทำให้ผู้สูงอายุกระปรี้กระเปร่าขึ้น สำหรับผู้สูงอายุที่ทำงานเป็นนักบริหารจะแต่งการเน้นรูปแบบเรียบ มีการตกแต่งเล็กน้อยเพื่อให้สง่างามสมวัย            
แบบเหมาะสมกับบุคลิก เช่น เป็นคนสูงใหญ่ ควรเลือกรองเท้าส้นเตี้ยถึงสูงปานกลางเพราะรองเท้าส้นสูง จะทำให้มองดูสูงยิ่งขึ้น คนอ้วนควรใช้รองเท้าแบบเรียบเกลี้ยง เป็นต้น   ๑.รูปร่างรองเท้าควรเป็นไปตามเท้าของผู้สวม และแนบกับเท้าทั้งด้านข้างและฝ่าเท้า   ๒.ควรเลือกใช้รองเท้าที่เย็บแข็งแรง ทนทาน   ๓.เลือกแบบและวัสดุเหมาะสมแก่การใช้งาน เช่นรองเท้าสวมใส่อยู่กับบ้าน ควรเป็นรองเท้าแตะที่ทนทานต่อการใช้งาน สวมใส่สบาย เปียกน้ำได้ เช่น รองเท้ายาง รองเท้าพลาสติก เป็นต้น
กระเป๋าถือ เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกาย มีจำหน่ายหลายขนาด รูปร่างและสีต่างๆกัน เช่น กระเป๋าสะพาย กระเป๋าหนีบ กระเป๋าหูหิ้ว เป็นต้น ควรพิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสม ดังนี้
      ๑.ฝีมือการเย็บเรียบร้อย ประณีต      ๒.สีของกระเป๋าเข้ากับสีของเสื้อผ้าที่สวมใส่ กระเป๋าสีดำใช้กับเสื้อผ้าได้ทุกสี      ๓.ขนาดพอเหมาะ สามารถบรรจุสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้โดยกระเป๋าไม่เสียรูปทรง ปากกระเป๋ากว้างเพื่อให้หยิบของได้สะดวก      ๔.ถ้าเป็นกระเป๋าที่มีสายสะพาย หรือกระเป๋าหูหิ้ว จะต้องมีความทนทานแข็งแรง      ๕.แบบเหมาะสมกับโอกาสที่ใช้ และถ้าเป็นแบบที่ใช้ได้หลายโอกาสก็จะเป็นการประหยัดรายจ่ายค่าเครื่องแต่งกายได้            
 การเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 
   การแต่งกายให้สวยงามและเหมาะสมกับบุคลิกภาพจำเป็นต้องรู้จักเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายโดยยึดหลักดังนี้
   ๑.รู้จักอำพรางส่วนที่บกพร่องของตนเอง และรู้จักเน้นในส่วนที่เป้นจุดเด่น   ๒.รู้จักเลือกสีเสื้อผ้าให้เข้ากับสีผิวของตนเอง   ๓.สวมใส่เสื้อผ้าที่มีความประณีต มีความสะอาด เรียบร้อย   ๔.รักษาซ่อมแซมเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพดี   ๕.เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับรูปร่าง โอกาส และกาลเทศะ   ๖.ใช้เครื่องประดับตกแต่งให้เสื้อผ้าสวยงามยิ่งขึ้น 
๑.การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับโอกาส     ในการแต่งกายเราควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับโอกาส ดังนี้   ๑)เสื้อผ้าสวมใส่อยู่กับบ้าน  ควรเลือกเสื้อผ้าที่สะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ ในบ้าน เช่น ทำงานบ้าน นอนเล่น เป็นต้น ดังนั้น เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่กับบ้าน ควรเป็นเสื้อผ้าที่ตัวหลวมเล็กน้อย หรือไม่คับจนเกินไป สวมใส่สบาย
   ๒)เสื้อผ้าสวมใส่ไปทำงานหรือไปทำกิจธุระ  ควรเลือกที่หรูกว่าเสื้อผ้าอยู่กับบ้าน และเลือกแบบสุภาพ ปกปิดมิดชิดไม่เปิดเผย สำหรับผู้หญิงไม่ควรใส่เสื้อเปลือยไหล่ เสื้อสายเดี่ยว เสื้อรัดรูป ที่เน้นรูปทรง หรือมองเห็นทรวดทรงชัดเจนเพราะไม่สุภาพ ไม่ปลอดภัย และทำให้ผู้สวมใส่มีคุณค่าความงามทางความรู้สึกของผู้พบเห็นน้อยลง
   ๓)เสื้อผ้าสวมใส่ไปงานเลี้ยงต่างๆ  ควรเป็นแบบเก๋ หรือพิถีพิถันมากกว่าชุดทำงานหรือไปทำธุระ ควรเป็นแบบสุภาพไม่เปิดเผย  ควรเลือกกระเป๋า รองเท้า ให้เข้ากับชุดที่สวมใส่
   ๔)เสื้อผ้าสวมใส่ไปงานเลี้ยงกลางคืน  เลือกเสื้อผ้าที่หรูหราพอสมควร เช่น ตกแต่งด้วยเลื่อม หรือวัสดุอื่นที่ให้แสงวูบวาบ  ไม่ควรเปิดเผยทรวดทรงมากนัก เพาระธรรมเนียมประเพณีไทย ไม่นิยมให้แต่งเปิดเผยมาก โดยเฉพาะผู้หญิงซึ่งถือว่าไม่สุภาพ และขัดต่อประเพณีนิยม
   ๕)เสื้อผ้าที่ใช่สำหรับงานกลางวัน  นิยมใช้ผ้าธรรมดา ผ้าแพร เนื้อด้าน มีลวดลายและดอกตามความชอบหรือวัสดุอื่น ส่วนการแต่งกายในเวลากลางคืนนั้นนิยมใช้ผ้าแพรเนื้อด้าน หรือผ้าที่มีความมัน เครื่องประดับในกลางคืนจะพิถีพิถันมากกว่างานกลางวัน
                การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับฤดูกาล สีและวัย      การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับฤดูกาล เป็นการเลือกเสื้อผ้าตามความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และสภาพฟ้าดิน อากาศ ซึ่งควรพิจารณาเลือก ดังนี้    ๑.ฤดูร้อนนิยมใช้ผ้าสีสว่างสดใส ตามสภาพฟ้าดินอากาศ    ๒.ฤดูฝนใช่สีค่อนข้างทึบ เนื้อผ้าไม่บางเกินไป เพราะถ้าเปียกฝนเสื้อผ้าก้อจะช่วยอำพรางสัดส่วนได้    ๓.ฤดูหนาวนิยมใช้สีหม่น สีเข้ม เพื่อเพิ่มความอบอุ่น ให้แก่ร่างกาย    ๔.ผู้ที่ผิวสีขาวจะสวมเสื้อผ้าได้ทุกสี ผู้ที่มีผิวคล้ำควรหลีกเลี่ยงสีหม่น สีปนเทา ควรหลีกเลี่ยงสีร้อน เพราะจะทำให้มองดูผิวคล้ำมากขึ้น    ๕.การเลือกผ้าตามวัย ควรพิจารณาเลือก ดังนี้
    -เด็กเล็กเหมาะสมที่จะใช้สีอ่อนเพราะดูสะอาดตา เช่น ฟ้าอ่อน ชมพูอ่อน เขียวอ่อน เหลืองอ่อน เป็นต้น    -วัยเด็กถึง 12 ขวบ เหมาะสมในการใช้สีอุ่น สีสดใสสะอาดตา ถ้าต้องใช้สีตัดกัน  ควรเป็นปริมาณ ๒๐-๔๐% ควรใช้สีสดใสที่คล้ายธรรมชาติ เช่น สีฟ้า สีน้ำทะเล สีของดอกไม้ใบหญ้าเป็นต้น
   -วัยรุ่น เป็นวัยที่มีความคิดเป็นอิสระ ชอบเพ้อฝัน เบื่อง่าย ชอบแต่งตัวตามแฟชั่น เพื่อให้เกิดจุดเด่น เสื้อผ้าจึงเป็นแบบสะดุดตาตามสมัยนิยม   -วัยหนุ่มสาว เป็นผู้ที่อยู่ในวัยทำงานสามารถใช้สีได้ทุกสี ทั้งสีสด สีเข้ม สีหม่น โดยดูจากการใช้สอยว่าเป็นชุดในโอกาสใด ควรเลือกให้เข้ากับสีผิว สวมใส่แล้วช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพ
   -วัยสูงอายุ ในสมัยก่อนแฟชั่นของผู้สูงอายุ ใช้ได้ไม่กี่สี เช่น เทา น้ำตาลปนเหลือง แต่ปัจจุบันแฟชั่นของผู้สูงอายุมีทั้งสีอ่อน สีเข้ม สีหม่น แฟชั่นสีสันทำให้ผู้สูงอายุกระปรี้กระเปร่าขึ้น สำหรับผู้สูงอายุที่ทำงานเป็นนักบริหารจะแต่งการเน้นรูปแบบเรียบ มีการตกแต่งเล็กน้อยเพื่อให้สง่างามสมวัย            
แบบเหมาะสมกับบุคลิก เช่น เป็นคนสูงใหญ่ ควรเลือกรองเท้าส้นเตี้ยถึงสูงปานกลางเพราะรองเท้าส้นสูง จะทำให้มองดูสูงยิ่งขึ้น คนอ้วนควรใช้รองเท้าแบบเรียบเกลี้ยง เป็นต้น   ๑.รูปร่างรองเท้าควรเป็นไปตามเท้าของผู้สวม และแนบกับเท้าทั้งด้านข้างและฝ่าเท้า   ๒.ควรเลือกใช้รองเท้าที่เย็บแข็งแรง ทนทาน   ๓.เลือกแบบและวัสดุเหมาะสมแก่การใช้งาน เช่นรองเท้าสวมใส่อยู่กับบ้าน ควรเป็นรองเท้าแตะที่ทนทานต่อการใช้งาน สวมใส่สบาย เปียกน้ำได้ เช่น รองเท้ายาง รองเท้าพลาสติก เป็นต้น
กระเป๋าถือ เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกาย มีจำหน่ายหลายขนาด รูปร่างและสีต่างๆกัน เช่น กระเป๋าสะพาย กระเป๋าหนีบ กระเป๋าหูหิ้ว เป็นต้น ควรพิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสม ดังนี้
      ๑.ฝีมือการเย็บเรียบร้อย ประณีต      ๒.สีของกระเป๋าเข้ากับสีของเสื้อผ้าที่สวมใส่ กระเป๋าสีดำใช้กับเสื้อผ้าได้ทุกสี      ๓.ขนาดพอเหมาะ สามารถบรรจุสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้โดยกระเป๋าไม่เสียรูปทรง ปากกระเป๋ากว้างเพื่อให้หยิบของได้สะดวก      ๔.ถ้าเป็นกระเป๋าที่มีสายสะพาย หรือกระเป๋าหูหิ้ว จะต้องมีความทนทานแข็งแรง      ๕.แบบเหมาะสมกับโอกาสที่ใช้ และถ้าเป็นแบบที่ใช้ได้หลายโอกาสก็จะเป็นการประหยัดรายจ่ายค่าเครื่องแต่งกายได้